ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการพัฒนาด้านแฟชั่นฝั่งบุรุษเดินหน้าไปไกลมาก บางครั้งดีไซเนอร์เลือกลดทอนความซับซ้อนและนำเสนอความเรียบง่ายแบบที่ทุกคนเข้าถึงได้ บางครั้งก็หยิบจับสิ่งที่มีอยู่แล้วมาถอดรากฐานแล้วประกอบใหม่หรือที่เราเรียกกันว่า “Reconstruct” สูทเองก็เป็นไอเท็มชิ้นคลาสสิกที่มีการผูกโยงเข้ากับเทรนด์ในทุกยุคทุกสมัย วันนี้ The Decorum จะพาไปทำความเข้าใจว่าอะไรคือ “Modern Tailoring” เทรนด์โลกยุคใหม่ที่ทำให้คนกลับมาใส่สูท แต่มีความแตกต่างและท้าทายต่อแฟชั่นตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิม
BIRTH OF MODERN TAILORING
จุดกำเนิดของสูทยุคใหม่นั้นอาจไม่ได้มีระบุไว้ในตำรามากนัก เพราะส่วนมากตำราการตัดเย็บจะเป็นแบบแผนให้ช่างฝีมือปฏิบัติตามด้วยความประณีต ดังนั้นเราจะเห็นว่าสูทที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจากฟากอังกฤษตามถนน Savile Row นั้นมีเอกลักษณ์และเป็นต้นแบบของการตัดสูททั่วโลก ในขณะเดียวสูทแบบอิตาลีที่มีซิลูเอตที่เบาสบายกว่า และมีลูกเล่นที่น่าตื่นเต้นเป็นของตัวเอง ครั้งหนึ่งก็เคยถูกมองว่าเป็นขบถและถือเป็นงานตัดเย็บที่ทันสมัย ฉีกอออกจากกรอบเดิมได้สำเร็จ ดังนั้น การนิยามยุคของ Modern Tailoring ให้ชัดเจนนั้นอาจไม่สามารถทำได้ ทว่ามันก็ทำให้รู้ว่าคำว่าโมเดิร์นเป็นคำสัมพัทธ์ที่ผันเปลี่ยนไปตามเวลาและยุคสมัย ตอนนี้ไม่ว่าจะสูทแบบอังกฤษแท้ สูทอิตาเลียนสไตล์ Neapolitan หรือสูทนิวยอร์กในภาพยนตร์ฟากอเมริกาก็ล้วนแต่ถูกมองเป็นไอเท็มชิ้นคลาสสิกกันหมด ทั้งๆ ที่ช่วงเวลาหนึ่ง สูทบางประเภทสร้างความแตกต่างและพยายามปรับแต่งออกจากแบบแผนเดิมครับ
RISE OF MODERN
ต้องบอกว่าการเกิดใหม่ของสูทแต่ละแบบในแต่ละยุคไม่ได้บ่อนทำลายสูทสไตล์คลาสสิกดั้งเดิมเสียทีเดียว ไม่แน่อาจจะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับวงการตัดเย็บดั้งเดิมด้วย แม้ความขบถจะดูเป็นปฏิปักษ์ต่อสิ่งที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ความจริงกลับไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป มันคือการสร้างสไตล์ใหม่ๆ โดยปรับแต่งจากสิ่งเดิมให้น่าสนใจดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น และนี่อาจเป็นประตูบานแรกที่ทำให้คนยังคงสนใจเสื้อสูทอยู่ แม้มันจะถูกเนรมิตขึ้นมานับศตวรรษก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น Edward Sexton กับ Tommy Nutter ที่รังสรรค์สูทที่กระชากซิลูเอตเดิมและสร้างสรรค์สูทรูปแบบใหม่บนถนน Savile Row ที่สามารถเชื่อมต่อโลกของสูทสไตล์ดั้งเดิมเข้ากับโลกแฟชั่นกระแสหลักผ่านกลไกการขับเคลื่อนตามยุคสมัย ทั้งภาพยนตร์ ดนตรี และการโฆษณา หากจะมองแฟชั่นชุดสูทยุค ‘70s ต้องบอกว่าพวกเขาทั้ง 2 เขารังสรรค์ความสุดยอดจนเกิดเป็นความโมเดิร์นในยุคนั้นได้อย่างไร้ที่ติ
MODERN OF MODERNIZED INDUSTRY
ในปัจจุบันต้องบอกว่าแฟชั่นเป็นเรื่องของความหลากหลาย การปฏิบัติซ้ำตามธรรมเนียมดั้งเดิมอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน และแบรนด์ชั้นนำมากมายต่างหยิบเอาวิธีการทำสูทมาประยุกต์ใช้จนเกิดเป็นงานออกแบบล้ำสมัย สะท้อนความโมเดิร์นของแนวคิดและการผลักดันอุตสาหกรรมให้เดินหน้าต่อไปโดยใช้รากฐานอันหนักแน่นอย่างงานตัดเย็บเนี้ยบกริบเช่นเดิม แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากแดนน้ำหอมอย่าง Dior, Louis Vuitton, Celine, Saint Laurent และอื่นๆ อีกมากมาย หยิบเอากลิ่นอายแฟชั่นในรูปแบบของตัวเองมาผสมผสานกับเทคนิคการตัดสูทอันสมบูรณ์แบบจนเกิดเป็นชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์ สูทกระดุมซ่อน หรือแม้แต่การใช้ผ้าผูก และลูกเล่นอีกมากมายถูกนำมาใช้เป็นรายละเอียดเสริมเติมแต่งความสนุก ที่สุดท้ายก็ตั้งอยู่บนความละเอียดลออในการทำสูทไม่ต่างจากยุคเก่านัก แต่อาจจะลดทอนบางอย่างลงเพื่อตอบโจทย์แฟชั่นยุคโมเดิร์นที่รวดเร็วมากขึ้น
CLASSIC SARTORIAL IS STILL IMMORTAL
แน่นอนว่าความกังวลของเหล่าสุภาพบุรุษสายคลาสสิกจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ เมื่อสูทดั้งเดิมถูกดัดแปลงและกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยม แม้แต่แฟชั่นฝั่งสุภาพสตรียังมีการถอดรหัสสูทเพื่อสร้างสรรค์งานออกแบบอันจัดจ้านขึ้นเสมอ แท้จริงแล้วแฟชั่นแบบดั้งเดิมไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหนแน่นอน อีกทั้งเสื้อสูทแบบใหม่ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นแปลกตายังช่วยให้คนหันมาสนใจและนำทางมาสู่รากลึกของแฟชั่นสายนี้ขึ้นเรื่อยๆ วัยรุ่นบางคนอาจเคยสนุกกับสูทสไตล์จัดจ้านของแบรนด์แฟชั่น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็ศึกษาทำความเข้าใจและหันมาสนใจสูทดั้งเดิมมากขึ้นเช่นกัน บางคนก็หาอ่านเส้นทางแฟชั่นของสุภาพบุรุษและสุดท้ายก็ตกหลุมรักกับความดั้งเดิมอันเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่มีอะไรทดแทนได้ ดั้งนั้นถึงสูทตัดเย็บแบบโมเดิร์นจะมีอิทธิพลต่อโลกเรามากขนาดไหน ทว่าสูทคลาสสิกดั้งเดิมไม่ว่าจะจากฝั่งอังกฤษหรืออิตาลีก็จะยังคงเป็นอมตะเช่นเดิมครับ
VARIETY
อย่างที่บอกทุกคนครับโลกแฟชั่นยุคปัจจุบันเดินหน้าด้วยความหลากหลาย วงการซาร์ทอเรียลก็เช่นกัน แต่เดิมสูทต้องสวมตามกฎระเบียบเป๊ะๆ ในปัจจุบันกลับต่างออกไป เพราะสุภาพบุรุษหลายคนที่เปิดใจกับการสไตลิ่งสนุกๆ ของแบรนด์ก็ใช้ส่วนนี้เป็นไอเดียในการปรับใช้กับการสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์ต่างๆ ให้เหมาะกับตัวเองมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการเลเยอร์สูทกับเสื้อยืด เสื้อสีสันสนุกสนาน หรือแม้แต่การสวมสูทกับสนีกเกอร์ ทั้งหมดล้วนเกิดจากการพัฒนาด้านแฟชั่นให้โมเดิร์นมากขึ้นทั้งสิ้นครับ ไม่ใช่ว่าต้องสวมสูทสไตล์จัดจ้านของแบรนด์ดังถึงจะเปิดประตูแห่งความหลากหลายได้ ในอีกทางหนึ่งใครหลงใหลแฟชั่นสไตล์คลาสสิกก็อาจเปิดโอกาสให้ตัวเองลองอะไรใหม่ๆ สอดประสานไปกับสไตล์ของตัวเองจนเกิดเป็นความวาไรตี้ในแบบที่สะท้อนอุตสาหกรรมแฟชั่นยุค 2022 และยุคต่อๆ ไปได้อย่างดีเลยครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องรู้สึกแย่กับการตีความสูทของคนยุคใหม่ เพราะสุดท้ายความวาไรตี้ก็จะสอดแทรกอยู่ในความคลาสสิก พามันตามยุคสมัยได้ทัน และนี่คือกุญแจสำคัญที่ทำให้มันเป็นอมตะอย่างที่มันเป็นได้มาตลอดนับร้อยปีนั่นเองครับ
สามารถติดต่อสอบถามกับเราได้ผ่านทุกช่องทางครับ อย่าลืมติดตามความรู้ที่น่าสนใจจากหัวใจเหล่าสุภาพบุรุษกับ The Decorum Tribune เพิ่มเติมได้ในตอนหน้า แล้วพบกันครับ