Exclusive Interview with Matthew Hranek of WM Brown

วันนี้ The Decorum พร้อมพาทุกคนไปรู้จักกับบุรุษผู้เป็นแบบแผนตามคำนิยามของคำว่า “สุภาพบุรุษ” ในเชิงไลฟ์สไตล์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

เครื่องดื่ม แฟชั่น และสไตล์ แน่นอนว่าคำเหล่านี้คือองค์ประกอบสำคัญที่หล่อหลอมสุภาพบุรุษคนหนึ่งให้ก้าวเดินตามแบบแผนความคลาสสิกได้อย่างหนักแน่น แต่ความเป็นตัวเองเป็นจุดทวิสต์ความแตกต่างให้เกิดขึ้นจนทำให้บุรุษหนุ่มบางคนโดดเด่นขึ้นมาจนเราต้องให้ความสนใจ วันนี้ The Decorum พร้อมพาทุกคนไปรู้จักกับบุรุษผู้เป็นแบบแผนตามคำนิยามของคำว่า “สุภาพบุรุษ” ในเชิงไลฟ์สไตล์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เขาสามารถหล่อหลอมตัวตนให้โดดเด่นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้อย่างไร มาหาคำตอบพร้อมเปิดรับมุมมองแนวคิดที่อาจทำให้เราพัฒนาตัวตนของตัวเองให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ติดตามอ่านเรื่องราวความน่าสนใจได้ที่นี่เท่านั้น!

Be Classic, Be Yourself & Be Simple

วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ Matthew Hranek บุรุษวัย 53 ปี ชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งและควบตำแหน่งบรรณาธิการนิตยสาร WM BROWN เขาอาศัยอยู่ในมหานครนิวยอร์ก แต่ด้วยความหวือหวาทำให้หลายคนอาจมองว่าชายหนุ่มจากนิวยอร์กมักเป็นคนหวือหวาตามธรรมชาติของเมืองที่ไม่}มีวันหลับใหล สำหรับ Matthew เขาคือบุรุษต้นแบบที่สามารถผนวกความเป็นตัว คลาสสิก และเรียบง่ายเข้าไว้ด้วยกันครับ ถ้าได้สัมผัสตั้งแต่เริ่มสนทนากันข้ามโลกผ่านทางอีเมล์ เราจะเห็นเลยครับว่าหนุ่มใหญ่จากนิวยอร์กตอบคำถามได้อย่างสุขุม มีระดับ และเรียบง่ายแต่ชัดเจน ทุกคำตอบไม่ต้องการคำอธิบายยืดยาว เราก็สามารถเข้าใจเนื้อหาที่เขาจะสื่อได้ทั้งหมดเลยล่ะครับ แค่กวาดตาอ่านคำตอบรอบแรกก็รู้สึกได้ทันทีว่าคนนี้มีอะไรไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

นอกจากบุคลิกที่วิเคราะห์ได้ผ่านตัวอักษรแล้วนั้น Matthew ยังเป็นบุรุษที่น่าดึงดูดมากทั้งแง่ไลฟ์สไตล์และแฟชั่นเลยครับ เพราะความคลาสสิกเรียบง่ายนี้เองที่เป็นปัจจัยสำคัญ เขากล่าวถึงแฟชั่นในความคิดของตัวเองว่า “ไม่ว่าจะอายุมากน้อยเพียงใด คนทุกช่วงอายุสามารถเข้ากับความคลาสสิกอมตะเหนือกาลเวลาได้หมด การแต่งตัวสไตล์ ‘American Preppy’ โดยสอดแทรกกลิ่นอายความเป็นบุรุษยุโรปเข้าไปเล็กน้อยคือแฟชั่นที่ทั้งปลอดภัยและลงตัว” สะท้อนถึงตัวตนความชอบพื้นฐานที่ค่อนข้างเรียบง่ายแต่คงความดั้งเดิมเอาไว้ ถึงจะไม่ใช่บุรุษฉูดฉาดแต่เขากลับโดดเด่นแบบไม่ต้องเอะอะอะไร ความเป็นตัวของตัวเองนี้ทำให้เขายืนหยัดในจุดยืนได้อย่างไม่สั่นคลอนเลยล่ะครับ

เขาไม่เก็บความเป็นตัวเองนี้ไว้เพียงคนเดียวเขายังเลือกถ่ายทอดต่อผ่านเลนส์จนออกมาเป็นภาพสวยงามในมุมมองที่ย่อยง่ายสวยงาม โดยเฉพาะการถ่ายภาพให้เชิงท่องเที่ยวให้กับทั้ง Vogue อเมริกาและ Condé Nast สื่อชื่อดังที่โดดเด่นเรื่องแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ชายหนุ่มที่วาดลวดลายการทำงานผ่านทั้ง 2 ที่การันตีว่าต้องดีกรีไม่ธรรมดาแน่นอน และ Matthew ก็เช่นกัน เขาไม่ได้หวือหวาตามมายาคติที่คนมักคิดถึงคำว่า “Vogue” แต่เขานำตัวตนความเรียบง่ายมากระจายให้คนทั่วไปได้เสพกันแบบมีรสมีชาติ ถ้าเปรียบเป็นเครื่องดื่มคงเหมือนน้ำอัดลมสีใสที่ภายนอกดูไม่มีอะไรแต่พอได้ลิ้มรองก็หวานซ่าพาสดชื่นในทุกๆ การดื่ม นอกจากความสามารถในการถ่ายภาพแล้ว ฝีมือในการสร้างความประทับใจผ่านตัวอักษรก็บ่งบอกคาแรกเตอร์ของ Matthew ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน โดยหนังสือที่เขาตั้งใจรังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์สุภาพบุรุษโดยเฉพาะทั้งเรื่องนาฬิกา (A Man & His Watch: Iconic Watches and Stories from the Men Who Wore Them, 2017) เรื่องรถ (A Man & His Car: Iconic Cars and Stories from the Men Who Love Them, 2020) และกำลังจะมีหนังสือเล่มล่าสุดที่คว้านตัวตนความคลาสสิกผ่านการสาธยายเครื่องดื่ม Negroni (The Negroni: A Love Affair, with Recipes, 2021) ทั้งหมดทั้งมวลคือการนำความเป็นตัวเองมาขยายต่อเพื่อเล่าเรื่องราวความคลาสสิกในรูปแบบที่เรียบง่าย

Timel(impr)ess

แน่นอนว่าความน่าสนใจของแฟชั่นดึงดูดผู้คนมากมายให้หันมองรันเวย์อลังการ ลุคเกือบ 100 ลุคในแฟชั่นโชว์ มิวส์ของแบรนด์ต่างๆ รวมถึงแคมเปญที่ประโคมสิ่งที่ทุกอย่างถูกเรียกว่า “ของสดใหม่” ในขณะที่ Matthew กลับแช่แข็งตัวเองครับ เขากวาดตามองโลกแฟชั่นเดินตามอย่างไม่ต้องการขยับเขยื้อนตามมากนัก เขาค่อยๆ มองความน่าตื่นเต้นและปล่อยมันผ่านไป สิ่งที่บุรุษนิวยอร์กผู้นี้ทำก็คือพัฒนาตัวเองตามเส้นทางและความสนใจของตัวอยู่เสมอ อาจจะฟังดูไม่เปิดใจสักหน่อยนะครับแต่เขากล่าวถึงความอมตะของการสวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างน่าสนใจว่า “ผมไม่ได้อยู่ในกระแสแฟชั่นมากเท่ากับการยึดอยู่กับคำว่า ‘timeless’ หรอกนะ” สิ่งนี้บ่งบอกถึงแง่มุมความไม่ใส่ใจที่ใส่ใจ เขาใส่ใจความงดงามของแฟชั่นอยู่เสมอและมองว่าความอมตะเหนือกาลเวลาคือคำตอบที่เขาต้องการมากที่สุด เขาไม่ได้ต่อต้านแฟชั่นปัจจุบันนะครับ แต่เขาเหมือนพบเสาหลักของตัวเองที่เขาพร้อมยึดโยงวิถีแฟชั่นในแบบของเขาเข้าไว้ด้วยแล้ว

ความเรียบง่ายของเขาไม่ใช่แค่แนวคิด แต่การเลือกจะมองความงามครบทุกรูปแบบและกลับมาสู่ความเรียบง่าย เชื่อไหมว่าคนมีสไตล์การแต่งตัวน่ามองแบบนี้เขาเห็นความงดงามในแบบอิตาเลียนที่นำมาปรับใช้เข้ากับ Preppy แบบดั้งเดิมจากคนขับรถแท็กซี่และบาร์เทนเดอร์ ซึ่งนับว่าแปลกมากเลยล่ะครับ เพราะภาพจำของใครหลายคนจำว่าแฟชั่นอิตาเลียนจะมาจากเหล่านักธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องกับการทำเสื้อผ้าโดยตรง รวมถึงนักธุรกิจ การมองหาแง่มุมเรียบง่ายที่แตกต่างออกไปยิ่งทำให้ Matthew พิเศษมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการไม่ได้สวมเสื้อผ้าหรูหราระดับท็อปแต่กลับสไตลิ่งได้อย่างหมดจดน่าสนใจคือคำตอบที่บุรุษจากนิวยอร์กหลงรัก

Photo by Jamie Ferguson

Fluidity & Intertwining

ยิ่งพูดถึงความเป็นตัวตนยิ่งต้องพูดถึงความลื่นไหลเกี่ยวคล้องกันของวิถีชีวิตเข้ากับสไตล์ Matthew มองว่าการจะมีเซนส์ด้านแฟชั่นที่มีคุณภาพต้องเกิดจากความ “อิน” ในเรื่องต่างๆ จนประกอบสร้างมาเป็นตัวตนก่อนจะสร้างแฟชั่นจากจุดนั้น โดยเขากล่าวว่า “การผสานกันระหว่างแฟชั่นและไลฟ์สไตล์คือการที่เราเปิดรับและแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพราะการเปิดรับเข้ามาหมายถึงการปล่อยให้สิ่งนั้นมีอิทธิพลต่อชีวิต และนั่นทำให้ผมสร้างแฟชั่นของผมขึ้นมาเอง” เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่า ทำไมภาพของ Matthew แต่ละภาพถึงดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติไม่มีอะไรกระด้างกระเดื่องเลยแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะภาพถ่ายเหมือนสะท้อนออกมาจากตัวตนและวิถีชีวิตของเขาจริงๆ อย่างไรอย่างนั้นไงล่ะครับ

รับทุกสิ่งแต่คงความอมตะเหนือกาลเวลา ต่อจากส่วนที่แล้วที่พูดถึงความอมตะของสไตล์ มันเชื่อมโยงมาถึงจุดนี้ว่าเขาไม่ได้รับวัฒนธรรมแค่จากการชื่นชอบสไตล์อื่นๆ ไกลตัว แต่บุรุษผู้นี้ยังโอบกอดความรู้สึกของวิถีรอบตัวไว้ได้ครบถ้วน

“ผมมักได้แรงบันดาลใจมากเพื่อน หนัง ครอบครัว ฟาร์ม และบาร์เทนเดอร์ดีๆ”

เขาไม่ใช่แค่เปิดรับสิ่งที่ถูกนิยามว่าเท่ว่าดีอยู่แล้วเข้ามาเท่านั้น แต่บุรุษวัยเลยเลขหลัก 5 พยายามซึมซับแบบไม่ต้องพยายาม ตัวตนเขากับแฟชั่นจึงออกมาได้เป็นธรรมชาติจนถึงขีดสุดครับ

Style’s not just about fashion, it’s about life…

สำหรับหลายคนอาจจะมองว่าสไตล์จะหมายถึงเรื่องความน่าตื่นเต้นของแฟชั่นและเสื้อผ้า Matthew บอกเลยว่า “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ” เจ้าของนิตยสาร WM BROWN นี้กล่าวว่า “Everyday items ไม่ใช่เสื้อแจ๊กเก็ตตัวโปรดหรือรองเท้าคู่รัก มันไม่จำเป็นต้องแพง มันอาจจะเป็นของเล็กๆ น้อยๆ อย่างดินสอและยางลบดีๆ เพื่อสร้างการบันทึกต่างๆ ก็ได้” ทุกคนเห็นได้ทันทีครับว่าการให้ความสำคัญกับสิ่งรอบตัวที่สามารถรังสรรค์ผลงานในชีวิตไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่ก็ตามนั้นมีคุณค่ามากเพียงใด เพราะดินสอดีๆ กับยางลบคงราคาไม่สูงเท่าไรนัก แต่ถ้ามันถูกออกแบบมาอย่างหมดจดตามประโยชน์ของมัน มันก็สามารถสร้างประโยชน์กับเราได้อย่างมากมายจนอาจคิดไม่ถึงได้เช่นกันนะครับ

และแน่นอนว่าถ้าจะพูดถึง Matthew จะไม่พูดถึงเรื่องเครื่องดื่มไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าใครได้มีโอกาสคลิกชมอินสตาแกรม @wmbrownproject ของเขาอยู่บ้าง (ถ้าไม่เคยเราแนะนำให้ลองเลย) จะเห็นว่าจะมีการนำเสนอเครื่องดื่มสุดคลาสสิกอยู่ตลอดเวลา เพราะเรื่องสไตล์ไม่ใช่แค่แฟชั่น และสไตล์ที่ดีก็ไม่จำเป็นต้องจัดจ้านแหวกแนวเสมอไป เขาจึงฝากข้อความเกี่ยวกับเครื่องดื่มสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ไว้ว่า “ทำเครื่องดื่มให้เรียบง่ายที่สุด ลดทอนความซับซ้อนให้เหลือน้อยที่สุด และแน่นอนว่าถ้าเราจะพูดถึงเรื่องการผสมผสานวัฒนธรรม แฟชั่น และ ไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ประเด็นหลักของผมคือเรื่องความเรียบง่ายและคุณภาพของการสรรสร้างเสมอครับ” เพราะฉะนั้น Negroni และ Martini แก้วเด่นในอินสตาแกรมก็คงเหมือนสัญลักษณ์ตัวแทนบ่งบอกตัวตนว่า Matthew คือค็อกเทลแท้ดั้งเดิมตามธรรมเนียมแก้วนี้ อาจจะมีบิดปรับดัดแปลงด้วยวิธีการทำหรือการเสิร์ฟบ้างแล้วแต่โอกาส ทว่าสุดท้ายมันก็คือความเรียบง่ายในแบบฉบับ Classic Cocktails นั่นเองครับ

ปิดท้ายเรื่องราวของ Matthew กันกับการหลอมรวมประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดเพื่อสร้างตัวตนโดยไม่พยายาม ไอดอลก็แสนจะใกล้ตัว “พ่อผมมีสไตล์มากวันหนึ่งก็ใส่ Levi’s 501 กับรองเท้าบู๊ต วันต่อมาจากอาจจะใส่เสื้อผ้า Harris Tweed ตัดเย็บอย่างดี” เขากล่าวถึงสไตล์ไอคอนที่แสนจะใกล้ตัว เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ทุกคนคงได้รับข้อความย้ำๆ ที่เขาเผยออกมาจากทุกประเด็นก็คือ “ความเรียบง่ายและชีวิต” ถึงแม้เขาจะไม่ใช่โคตรแฟชั่นนิสต้าที่ทั้งสดใหม่และตื่นเต้นตลอดเวลา แต่เขาสะท้อนให้เห็นถึงการมีชีวิตและแสดงตัวตนออกมาอย่างมีนัยยะสำคัญ

“ทำตามความรู้สึก แต่งตัวด้วยสิ่งที่บรรยายตัวตนที่แท้จริงออกมาให้ได้มากที่สุด”

นี่คือวลีปิดท้ายความน่าสนใจของบุรุษผู้บอกเล่าเรื่องราวอันน่าสนใจของบทความนี้ Matthew Hranek ผู้ก่อตั้งและบรรณิการนิตยสาร WM BROWN

คอยติดตามความรู้ที่น่าสนใจจากหัวใจเหล่าสุภาพบุรุษ กับ The Decorum Tribune ได้ในตอนหน้า หากท่านใดสนใจสินค้าคุณภาพในสไตล์แบบ Matthew Hranek สามารถเข้ามาลองและปรึกษาได้ที่ The Decorum หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Online Shop