Icons of Our Times: Gianni Agnelli
เมื่อพูดถึงสไตล์ไอคอนสำหรับ Classic Menswear หนึ่งในชื่อที่หลายๆ คนนึกถึง ก็คงจะไม่พ้น Gianni Agnelli ครับ เท้าความกลับไปเมื่อ 12 มีนาคม 1921 Giovanni “Gianni” Agnelli เกิดในครอบครัวชนชั้นสูงในเมืองตูริน มีคุณพ่อ Edoardo Agnelli เป็นนักอุตสาหกรรมชื่อดังและคุณแม่เป็นถึงเจ้าหญิงในอิตาลี Virginia Bourbon del Monte ด้วยรากฐานชีวิตอันมั่นคงและชื่อเสียงของตระกูล Agnelli ทำให้เขามีภาระอันหนักอึ้งรอเขาอยู่ตั้งแต่ก่อนช่วงวัยรุ่นจริงจังเสียอีก ถ้าถามว่าความคาดหวังแค่ไหน…ลองนึกภาพว่าคุณคือลูกชายของตระกูลเก่าแก่ผู้ก่อตั้ง FIAT บริษัทรถยนต์รายใหญ่ในอิตาลีดูสิครับ เท่านี้ก็อาจจะได้คำตอบแบบไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมมากนัก วัยหนุ่มเขาต้องประสบชะตากรรมในสงครามโลกครั้งที่ 2 เหมือนกับชายทุกคนในยุคนั้น ต้องสู้รบในหลายสมรภูมิ ซึ่งเขารอดมาได้ทุกครั้ง ต่อมาด้วยพื้นฐานทางบ้านและการศึกษาที่ดี ภาษาอังกฤษที่เขาพูดได้อย่างคล่องแคล่วได้ช่วยชีวิตเขาไว้ในภาวะหลังสงครามเลยล่ะครับ เพราะถึงแม้อิตาลีจะแพ้สงครามแต่เขาได้รับตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานกึ่งล่ามให้กับกองทัพอเมริกา ถ้าไม่มีทักษะภาษาอันยอดเยี่ยมในวันนั้น เราอาจจะไม่ได้เห็นความคลาสสิกแบบอิตาเลียนที่คุ้นตากันตอนนี้ก็ได้นะครับ
*เกร็ดน่ารู้: Gianni Agnelli เคยรบในสมรภูมิแอฟริกาเหนือโดยปฏิบัติการในรถที่ทำโดยบริษัท FIAT ของตระกูลตัวเอง
นักธุรกิจผู้กลับมาสานต่อกิจการครอบครัวอีกครั้ง!
ช่วงก่อนสงครามโลกเรื่อยไปจนถึงปี 1966 FIAT มีประธานใหญ่คือคนนอกวงศ์ตระกูลอย่าง Vittorio Valletta ชายผู้ผลักดันให้ยี่ห้อรถคลาสสิกของอิตาลีเริ่มผลิตรถตลาดจนกลายเป็นไลน์สินค้าที่ทำรายได้มหาศาล แต่ทว่าเขาก็ได้วางมือเพื่อไปรับตำแหน่งทางการเมือง ด้วยเหตุนี้จึงถึงคราวที่ Gianni Agnelli ได้ทำงานจริงจังเสียที หลังจากเขารับมรดกตกทอดจากคุณปู่ แต่ผู้บริหารตัวจริงไม่ใช่เขา Gianni Agnelli ผ่านวิกฤติมามากมายทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และด้านอุตสาหกรรมเอง และนั่นยิ่งฝึกให้เขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง มันส่งผลต่อเรื่องสไตล์ด้วยนะครับ เพราะความโดดเด่นและมั่นคงย่อมเป็นแบบแผนให้หลายคนมองเขาเป็นต้นแบบ บุรุษผู้ครองธุรกิจรถ ข้องเกี่ยวกับฟุตบอล และมีรสนิยมด้านการแต่งกาย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ไลฟ์สไตล์ของ Gianni Agnelli สะท้อนความแมสคิวลีนสุดขั้ว และจุดนี้กลายเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้สไตล์การแต่งกายของเขาเป็นที่รู้จักกันในแวดวงสุภาพบุรุษ ทุกอย่างที่ชายหนุ่มทุกยุคทุกสมัยจะชอบเขามีครบอยู่ในตัว และไม่ใช่แค่มี เพราะเขาเป็นผู้นำในทุกๆ ด้าน!
กบฏแห่งแฟชั่น หรือ ผู้นำความแปลกใหม่?
หลายคนมักตั้งคำถามเสมอเมื่อมีสิ่งแปลกใหม่ปรากฏขึ้น กฎระเบียบแบบเดิมๆ ถูกตั้งโจทย์ และจะกลายเป็น Norms ของสังคมขึ้นอยู่กับคนที่เป็นผู้ริเริ่มธรรมเนียมใหม่ อ่านมาถึงตรงนี้คงเดากันได้แล้วครับว่า Gianni Agnelli ซึ่งได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับสไตล์การแต่งกายของสุภาพบุรุษที่ไม่ได้ยึดติดขนบเดิมจนซ้ำซากจำเจ เขาเปลี่ยนแปลงจากความผิดปกติสู่ความปกตินี่คือสิ่งที่ทายาทธุรกิจถนัด คำว่า “Sprezzatura” จึงถูกนำมานิยามชายคนนี้ว่าเขาคือผู้ทำความยุ่งเหยิงยุ่งยากให้สบายแบบไม่ต้องลำบากพยายาม
การสวมสูทผิดธรรมเนียมอย่างตั้งใจ…คำนี้เหล่าฝั่งอนุรักษ์นิยมในเรื่องการแต่งกายของสุภาพบุรุษอาจจะไม่ชอบนักเมื่อเห็นการปล่อยกระดุม การปลดเนกไท และรายละเอียดต่างๆ อีกมากมายที่อาจจะดูขัดใจได้ แต่เราขอบอกเลยครับว่า Gianni Agnelli ก้าวข้ามประเด็นนี้มาได้อย่างไม่เป็นปัญหา แถมยังสร้างสไตล์จนเป็นเอกลักษณ์ให้เราพูดถึงจนถึงวันนี้อีกด้วยครับ สูทกระดุม 2 แถวมักมีกระดุมด้านให้กลัดเสมอ(เพื่อรักษาโครงสร้างของเสื้อสูทให้เนี้ยบกริบ) และการสวมสูทแบบนี้ส่วนมากมักจะดูทางการเป็นระเบียบแบบแผน แต่สำหรับสไตล์ไอคอนคนนี้ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาเลือกจะปล่อยให้สูทสไตล์อิตาเลียนซึ่งมีโครงสร้างที่บางกว่าสูทสไตล์อังกฤษ พลิ้วไหวไปกับตัวเขาได้อย่างน่าสนใจ เขาปล่อยให้ความพลิ้วไหวของผ้าเคลื่อนไปตามร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มเสน่ห์ให้กับสูทแบรนด์ Caraceni ห้องเสื้อประจำของเขาโดดเด่นขึ้นมาทันตา และเขามักสวมกับเสื้อเชิ้ตผ้าอ็อกซ์ฟอร์ดปก Button-Down แต่เลือกจะปล่อยกระดุมไว้ ซึ่งเหล่ากูรูแฟชั่นในยุคนั้นตั้งคำถามว่าจะซื้อเสื้อเชิ้ตปกแบบนี้ทำไมถ้าไม่ใช้ฟังก์ชั่นของมัน แต่คงจะตอบง่ายๆ ว่า การแต่งกายไม่มีหลักการตายตัว ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนครับ เพราะอย่าง Gianni Agnelli เอง เขาก็เลือกแต่งกาย Sprezzatura ในแบบของเขาเองครับ
ไม่ใช่แค่การสวมสูทแต่การเลือกวิธีนำแอ็กเซสเซอรี่ชิ้นต่างๆ มาคอมพลีทลุคสูทสไตล์เฉพาะตัวก็สำคัญเช่นกันครับ เราได้กล่าวถึงเสื้อเชิ้ตไปแล้ว ของชิ้นต่อมา คือเนกไท ถ้าเราค้นหาคำว่า “วิธีการผูกเนกไท” ใน Search Engine ผลลัพธ์จะออกมาเป็นปมหลายรูปแบบต่างกันแต่มักจบด้วยความสมบูรณ์แบบเกือบทั้งหมด สำหรับ Gianni Agnelli นั้นการผูกเนกไทของเขาจะดูไม่จริงจังมาก ปล่อยสายด้านหลังให้เป็นอิสระ ความยาวไม่พอดีขอบเข็มขัดตามตำราเป๊ะๆ จุดนี้ยิ่งทำให้การสวมสูทสไตล์อิตาลีแบบเฉพาะตัวยิ่งโดดเด่น เรื่องนี้แผ่อิทธิพลมาถึงเทรนด์ของเสื้อผ้าคลาสสิกจนทำให้การแต่งกายแบบนี้เป็นวิถีการแต่งกายอีกแบบที่สุภาพบุรุษหลายคนยึดตาม นอกจากนี้ เขายังเสริมเอกลักษณ์ในสไตล์ Sartorial ให้ตัวเองอีกจุดหนึ่งคือการสวมนาฬิกาทับลงบนแขนเสื้อด้านนอกบริเวณข้อมือ เมื่อจะดูเวลาเขาก็แค่ถกแขนเสื้อสูทขึ้นโดยไม่ต้องถกเสื้อเชิ้ต เรียกได้ว่าเป็นวิธีการสวมนาฬิกาที่ได้ทั้งประโยชน์ใช้สอย แปลกใหม่และสร้างภาพจำให้กับ Agnelli เป็นอย่างมาก
เน้นย้ำความมีเอกลักษณ์โดยไม่ต้องจำกัดตัวเองของ Gianni Agnelli โดยเขาเองเพิ่มเติมด้วยวิธีการแมตช์ชุดสูทหรือเสื้อแจ๊กเก็ตเข้ากับรองเท้าผ้าใบ รองเท้าขับรถ (Gomminoes) หรือแม้แต่รองเท้าบู๊ทปีนเขา เมื่อก่อนการสวมรองเท้าอื่นที่ไม่ใช่รองเท้าหนังตามแบบดั้งเดิมกับสูทนั้นเป็นเรื่องแปลกมาก แต่ด้วยวิถีที่ข้องเกี่ยวกับชีวิตหลากหลายรูปแบบตั้งแต่รถยนต์ การปีนเขาไปจนถึงการเจรจาธุรกิจ การผสมผสานตัวตนเข้ากับเรื่องแฟชั่นจนเกิดเป็นแฟชั่นทรงอิทธิพลของสุภาพบุรุษสไตล์ขบถที่ยังคงโดดเด่นจนถึงทุกวันนี้ มากไปกว่าธรรมเนียมการสวมสูทที่บุรุษผู้นี้ฉีกให้กว้างขึ้น เขายังเป็นบุรุษผู้หยิบกางเกงยีนส์มาสไตลิ่งได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการแมตช์กับเบลเซอร์ เสื้อ Western Shirt หรือจะเป็นลุค Double Denim เขาก็ทำได้อย่างหมดจด จนมีคนเคยกล่าวถึงเขาว่า “ถ้าการสวมกางเกงยีนส์คู่กับเสื้อยีนส์คืออาชญากรรมด้านแฟชั่น เขาคงนอนอยู่ในคุกแล้วตอนนี้”
คำนิยามว่า “Sprezzatura” หรือ “Effortless” สะท้อนสไตล์ของบุรุษผู้นี้ได้ชัดเจนมากจริงๆ ครับ เขาทั้งไม่เหมือนใครและดูดีได้โดยไม่ต้องพยายาม เลือกทุกอย่างให้เหมาะกับบุคลิก คงความคลาสสิกมีสไตล์แต่ก็ไม่ละทิ้งฟังก์ชั่นความสะดวกสบาย โดดเด่นโดดออกจากขนบเดิมแต่ไม่หักล้างธรรมเนียมที่คนยึดถือกัน ใครจะคิดว่าเขาคือกบฏแฟชั่นก็ไม่แปลกนักในเมื่อยุคสมัยนั้นมีระเบียบแบบแผนการแต่งกายให้เห็นเด่นชัด แต่เขาเลือกจะไม่เหมือนใคร และจัดการความแตกต่างได้สมบูรณ์แบบจนข้อกังหาจางหายตามกาลเวลา เหลือเพียงความน่าทึ่งของสไตล์ถึงแม้ว่าจะหลุดกฎเกณฑ์ที่มี
ความแตกต่างคือเสน่ห์ “วันที่ทุกคนแต่งตัวเหมือนกันไปหมด เราฉีกตัวเองออกมานั่นล่ะคือความน่าสนใจ ถ้าวันหนึ่งทุกคนดูเนี้ยบเพอร์เฟกต์เหมือนกันหมด ผมอาจจะแต่งตัวซอมซ่อก็ได้” Vittorio Zenobi ช่างเสื้อชื่อดังขมวดปมเรื่องความแตกต่างของสไตล์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Gianni Agnelli สร้างตำนานแฟชั่นให้คนทั่วโลกให้รู้จักเขา
ทั้งนี้ หากใครสนใจอยากรู้เกี่ยวกับอัตชีวประวัติของ Agnelli The Decorum Tribune ขอแนะนำสารคดีโทรทัศน์จาก HBO เรื่อง Agnelli ได้ครับ
