‘Neo Preppy’ / ‘Neo Ivy’ เทรนด์แฟชั่นที่มีรากฐานจากความอมตะและรักษาอัตลักษณ์อันโดดเด่น

สไตล์ ‘Preppy’ คือการแต่งกายของสุภาพบุรุษที่ทรงอิทธิพลและได้รับการสืบต่อมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน รูปแบบของสไตล์ที่บ่งบอกถึงรสนิยมและเซนส์ด้านแฟชั่นอันผูกโยงถึงการศึกษาและระดับสังคมจึงเป็นดั่งรูปแบบการแสดงออกที่ทำให้แฟชั่นสุภาพบุรุษอเมริกันคึกคัก ซึ่งมันก็มีความเชื่อมโยงกับ ‘Ivy League’ หรือกลุ่มสถาบันการศึกษาระดับท็อปของสหรัฐอเมริกาที่ไม่เพียงแต่ผลิตบุคลากรคุณภาพเท่านั้น ทว่ายังนำเสนอรูปแบบการแต่งกายอันถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นและกลายเป็นดั่งคำภีร์การแต่งกายของสุภาพบุรุษไปแล้ว

A CENTURY OF FASHION

เป็นเวลานานกว่าศตวรรษที่ Ivy League สร้างอิทธิพลให้กับสังคมทั้งเชิงวิชาการและศิลปวัฒนธรรม ต้องเข้าใจก่อนว่าแฟชั่นมันเป็นเครื่องบ่งบอกสถานะทางสังคมในสมัยก่อน (สมัยนี้ก็เช่นกันต่อไม่หนักแน่นเท่าสมัยก่อน) เหล่าลูกหลานผู้รากมากดีที่เข้ารับการศึกษาในสถาบันการศึกษาชั้นนำจึงมีเครื่องแบบที่บ่งบอกถึงความมีระดับในทุกมิติ อีกทั้งเหล่าชนชั้นนำยังเป็นเหมือนผู้นำในทุกด้าน เรื่องแฟชั่นก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น การสร้างเทรนด์หรือความนิยมล้วนเกิดจากการผลิตซ้ำของเหล่าคนชนชั้นนำและการสวมแจ็กเก็ตกระดุมทอง เสื้อเชิ้ตขาวสไตล์ Button-Down หรือแม้แต่การสวมเลเยอร์นิตแวร์จึงเป็นเหมือนสัญญะของแฟชั่นแห่งความเหนือระดับในช่วงปลายยุค 1890s ถึงต้นยุค 1900s นั่นเองครับ นับจากตอนนั้นก็เป็นเวลามากกว่า 120 ปีที่อิทธิพลแฟชั่นสไตล์ Preppy ถือกำเนิดและกลายเป็นมาตรฐานการแต่งกายของสุภาพบุรุษแทบทุกยุค

WIDESPREADED PREPPY ERA

แน่นอนว่าเทรนด์แฟชั่นสำหรับชนชั้นสูงหรือคนเฉพาะกลุ่มจะแบ่งแยกและไม่ค่อยผูกโยงกับสังคมรวมในอดีต แม้มันจะถูกมองว่ายอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม เทรนด์ Preppy หรือ Ivy ไม่ได้เป็นเรื่องของคนกลุ่มใหญ่ในสังคมจนกระทั่งยุค 1950s ไอเท็มชิ้นสำคัญอย่างเบลเซอร์กระดุมทอง เนกไทลายตาราง เสื้อนิตแวร์ เสื้อเชิ้ตแบบ Button-Down และอีกหลายต่อหลายองค์ประกอบของลุคนั้นถูกนำมาผสมผสานจนเกิดเป็นเทรนด์ทั่วไปในสังคมก็ยุคนี้นี่เอง อิทธิพลสำคัญมาจากภาพยนตร์และสื่อต่างๆ ประกอบกับชุดความคิดที่มีต่อแฟชั่นแบบนี้ว่ามีความเหนือระดับสะท้อนภาพรสนิยมอันยอดเยี่ยม แน่นอนว่ามีเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับหรูหราจะถูกลดทอนมาสู่ระดับคนทั่วไป เราจะเห็นว่าเสื้อผ้าที่มีรายละเอียดการตัดเย็บและใช้ผ้าคุณภาพสูงลิ่วค่อยๆ เสื่อมความนิยมและนำมาสู่การเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่จนกลายเป็นกระแสฮิตติดลมบน

กระแสอิทธิพลจากภาพยนตร์และนักแสดงระดับไอคอนอย่าง Steve McQueen, James Dean และ Paul Newman กลายเป็นไอดอลด้านการแต่งกายและพวกเขาก็นำเสนอลุคสไตล์ Preppy ให้เห็นบ่อยครั้งในช่วงนั้น โดยพวกเขาปรับแต่งรูปแบบการแต่งกายแบบดั้งเดิมให้เหมาะกับสังคมทั่วไปมากขึ้น เบลเซอร์กระดุมทองอาจไม่ใช่ไอเท็มคีย์พีซเสมอไป แต่เสื้อเชิ้ต คาร์ดิแกน และนิตแวร์ต่างๆ ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างน่าทึ่ง ผนวกเข้ากับการมาถึงของเทรนด์แฟชั่นเสื้อรักบี้ที่ค่อยๆ ได้รับความนิยมจนถูกนำมาหลอมรวมผสมจนเป็นส่วนหนึ่งของเค้าโครง Preppy หรือ Ivy ที่ทุกคนคุ้นเคย

DOWNFALL

จุดตกต่ำของสไตล์ Preppy หรือ Ivy เกิดจากชุดความคิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของเหล่าฮิปปี้ในช่วงยุค 1960s และ 1970s เทรนด์แฟชั่นเทตามความนิยมนั้นอย่างถึงที่สุด รูปแบบความเนี้ยบประณีตบ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษเหนือระดับผู้มีการศึกษาถูกแทนที่ด้วยไอเท็มที่สะท้อนการแสดงออกของความอิสระ ยุคนั้นกางเกงขาบาน เสื้อเอวลอย หรือรูปแบบการแต่งกายที่ฉีกขนบเดิมๆ กลายเป็นเทรนด์หลักของสังคม สไตล์ความเนี้ยบของสุภาพบุรุษแบบดั้งเดิมแทบจะหายไปจากสารบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟากฝั่งอเมริกา ดังนั้นกระแสแฟชั่นที่เคยโด่งดังและถือเป็นบทบัญญัติหนึ่งของสุภาพบุรุษขนานแท้ก็เลือนหายไปตามวัฏจักรของสังคมอย่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับ

THE REVIVAL

การกลับมาของสไตล์ Preppy เกิดขึ้นในยุค 1980s แฟชั่นเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นรูปแบบแฟชั่นที่ผสมผสานความคลาสสิกและความโมเดิร์นไว้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นกระแสแฟชั่นที่ไม่ได้ฉาบฉวย มีประวัติศาสตร์และที่มาที่ไปชัดเจน รวมถึงมีการเลือกสรรไอเท็มคุณภาพชนิดอมตะเหนือกาลเวลา ดังนั้นการผสมผสานลุคในแบบ Preppy ที่สอดคล้องกับ Ivy แบบเก่ากลับมาอีกครั้ง แม้มันจะไม่ได้มีข้อความการสื่อสารแบบเดิมอีกต่อไป แต่มันก็คงความสวยงามและถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ออกมาได้อย่างงดงามเช่นเดิม หรือจะพูดว่า Preppy ฆ่าไม่ตายก็ไม่ผิดนักครับ

NEO PREPPY / IVY

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการแฟชั่นกำลังจารึกการกลับมาของเทรนด์ Preppy ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “Neo” แปลว่า New ซึ่งถูกใช้ในแวดวงศิลปะมาอย่างยาวนาน ศิลปะแบบเดิมที่ถูกแต่งแต้มให้มีความสดใหม่มากขึ้นจึงได้รับคำขยายความว่าใหม่นำหน้าเสมอ เช่นเดียวกับสไตล์ Preppy ที่ปัจจุบันหลงเหลือความคลาสสิกแต่ก็ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับยุคสมัยมากขึ้น ทว่ามันไม่ใช่การตามเทรนด์หรือพยายามนำหน้า แต่หมายถึงการเลือกสรรไอเท็มที่สะท้อนภาพแบบเดิมด้วยแนวคิดของปัจเจกบุคคล ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง Individualism ตามแนวคิดการใช้ชีวิตและสภาพสังคมของคนยุคใหม่นั่นเองครับ

“ตามสไตล์เฉพาะตัว” วลีนี้คงบ่งบอกแฟชั่น “Neo Preppy” ได้อย่างดี แต่ละคนมีการตีความและนำเสนอลุคแฟชั่นในแบบที่ต่างออกไปแม้จะมีรากฐานเดียวกันก็ตาม เพราะฉะนั้น Preppy ที่เคยมีกรอบจำกัดความค่อนข้างแม่นยำ กลับคลายกฎลดเกณฑ์ตามมุมมองของปัจเจกบุคคลและเปิดให้ทุกคนสรรสร้างลุค Preppy ในแบบฉบับของตัวเอง เราจะเห็นว่ามีการมิกซ์แอนด์แมตช์ไอเท็มอย่างกางเกงยีนส์กับเสื้อลายตาราง การสวมเบลเซอร์กระดุมทองกับกางเกงที่แปลกตามากขึ้น การเลือกรองเท้าที่มีลูกเล่นมากกว่ารองเท้าหนังแบบสวมดั้งเดิม หรือแม้แต่การเลือกนิตแวร์ที่มีแพตเทิร์นหลากหลายตามการพัฒนาของศิลปะการแต่งกายยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อมองดูอย่างตั้งใจจะพบว่ามันมีกลิ่นอายของ ‘Preppy’ แบบเดิมคละคลุ้งไปทั่ว นี่คือนิยามของคำว่า Neo Preppy โดยแท้จริง

อีกหนึ่งความสำคัญคือเทรนด์โลกยุค 2020s เป็นต้นมากับนิยามคำว่า Old Money แฟชั่นที่บ่งบอกถึงลักษณะการแต่งกายและใช้ชีวิตแบบผู้ดีเก่าคือเทรนด์ที่ถูกนำเสนออย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังถูกผลิตซ้ำตามนิยามดั้งเดิม ย้อนกลับสู่ประวัติศาสตร์ของ Preppy และ Ivy ที่ผูกโยงกับระดับของคนชนชั้นนำ นั่นหมายถึงการแต่งกายแบบคลาสสิกตามสไตล์นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของนิยามคำว่า Old Money ด้วยเช่นกัน Neo Preppy หรือ Neo Ivy อีกรูปแบบคือการสร้างสรรค์ลุคด้วยไอเท็มสมัยใหม่อันเปี่ยมด้วยคุณภาพเพื่อนำเสนอลุคคลาสสิกแบบดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเรื่องซิลูเอต รูปทรง หรือแม้แต่สีสันลวดลายเล็กน้อยเพื่อความลื่นไหลในกระแสแฟชั่นยุคปัจจุบัน แต่แน่นอนว่ารูปแบบเสน่ห์อันคละคลุ้งตามฉบับดั้งเดิมคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ Preppy และ Ivy เป็นอมตะ ไอเท็มอย่าง Boat Shoes, Moccasins รวมถึงแจ็กเก็ตเบสบอล สปอร์ตแจ็กเก็ตดั้งเดิม และไอเท็มจากวัสดุ Seersucker กลับมาอีกครั้งด้วยรูปแบบที่สดใหม่แต่ยังตอบโจทย์เทรนด์ Old Money สะท้อนภาพให้เห็นว่าสุภาพบุรุษที่หลงใหลกับสไตล์ Preppy และ Ivy ไม่เคยตกยุค กงล้อเวลาด้านแฟชั่นจะหมุนวนกลับมาบ่งบอกว่าถึงเวลาของเหล่าสุภาพบุรุษกลุ่มนี้ได้เฉิดฉายในฐานะผู้นำเทรนด์หลักของสังคม

หากใครสนใจเกี่ยวกับแฟชั่นของสุภาพบุรุษฉบับคลาสสิกแบบนี้ สามารถติดต่อสอบถามกับเราได้ผ่านทุกช่องทางครับ อย่าลืมติดตามความรู้ที่น่าสนใจจากหัวใจเหล่าสุภาพบุรุษกับ The Decorum Tribune เพิ่มเติมได้ในตอนหน้า แล้วพบกันครับ