FUNCTIONAL AESTHETIC
ย้อนกลับไปในสมัยช่วงช่วงปี 1869 กีฬาโปโลและกีฬากลางแจ้งอื่นๆ ได้รับความนิยมอย่างมาก สอดคล้องกับบันทึกทางประวัติศาสตร์ของแฟชั่นสำหรับสุภาพบุรุษว่าส่วนใหญ่เสื้อกีฬายังคงเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นหรือเสื้อเชิ้ตพับแขน ดังนั้นการสวมใส่เสื้อเชิ้ตจึงได้รับความสนใจมาจนถึงสมัยนี้และยังคงถกเถียงกันเสมอว่าลุคสปอร์ตนั้นรวมถึงเสื้อเชิ้ตด้วยหรือไม่ ยุคนั้นหากพูดถึงกีฬากลางแจ้งก็ต้องนึกถึงอังกฤษ ซึ่งนักกีฬาโปโลเริ่มรู้สึกว่าปกเสื้อเชิ้ตเป็นอุปสรรคอยู่ไม่น้อยครับ พวกเขาจึงคิดค้นวิธีการติดกระดุมปกเข้ากับเสื้อเชิ้ต เพื่อไม่ให้ปกถูกลมพัดปลิวไปมารบกวนการเล่นกีฬานั่นเองครับ
ทว่าเรื่องราวนี้กลับมีข้อโต้แย้งอยู่บ้าง ไอเดียริเริ่มเกี่ยวกับการสร้างฟังก์ชั่นเพื่อใช้งานนั้นใช้ร่วมกัน แต่จุดกำเนิดนั้นอาจต่างกัน หลายแหล่งข้อมูลระบุว่าเสื้อเชิ้ตแบบ Button-Down เป็นไอเดียของ John Brooks ทายาทของผู้ก่อตั้งแบรนด์ Brook Brothers ที่เล็งเห็น “Pain Point” เกี่ยวกับการสวมเสื้อเชิ้ตขณะเล่นกีฬา เขาจึงนำกลับมาคิดค้นเสื้อเชิ้ตที่กลัดปกติดกับตัวเสื้อ และเริ่มผลิตอย่างเป็นทางการในปี 1896 แน่นอนว่าพอพูดถึงเสื้อเชิ้ตประเภทนี้หลายคนจะนึกถึงกลิ่นอายอเมริกันใช่ไหมครับ นั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะ Brook Brothers คือแบรนด์ที่ผลิตเสื้อสไตล์นี้ออกมาจำนวนมากสอดคล้องกับบันทึกทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในยุคสมัยนั้นนั่นเองครับ

HISTORY WAS REPRODUCED
การผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ Button-Down Shirt กลายเป็นภาพจำของสุภาพบุรุษอเมริกันในหลายยุคหลายสมัย มีการหยิบยกแรงบันดาลใจจากฝั่งอังกฤษมาตีความสร้างสรรค์ลุคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อพูดถึงแฟชั่นคลาสสิกสไตล์อเมริกัน รับรองว่าเสื้อเชิ้ตประเภทนี้ต้องเป็นคีย์ไอเท็มที่แทบทุกคนจะต้องนึกถึงแน่นอนครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องบอกว่าหลักฐานการบ่งชี้ว่า Brook Brothers เป็นเจ้าแรกจริงๆ หรือไม่ยังไม่ชัดเจน แต่ที่ชัดเจนคือจำนวนการผลิต การนำเสื้อเชิ้ตแบบนี้สอดแทรกเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมการแต่งกายตลอดทศวรรษ อีกทั้งยังมีแบรนด์อเมริกันอื่นๆ เจริญรอยตาม การันตีได้อย่างหนึ่งว่า Button-Down Shirt ยิ่งใหญ่ภายใต้กรอบวัฒนธรรมอเมริกันเสียจริงครับ
UNFASTENED BUTTON
ความคลาสสิกของสุภาพบุรุษคือการใช้ฟังก์ชั่นของเสื้อผ้าครบสมบูรณ์แบบ การสวม Cufflinks เข้ากับเสื้อที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ หรือการกลัดกระดุมปก Button-Down Shirt ก็เช่นกัน ดังนั้นจึงมีคำถามสำคัญว่าสุดท้ายกระดุมคู่นี้จำเป็นต้องกลัดหรือไม่ ณ จุดนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ชัดเจนนัก เพราะนี่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เพิ่มเข้ามาภายหลัง แต่แล้วตำนานด้านสไตล์คนหนึ่งก็กล้าที่จะยืนหยัดสร้างจุดยืนว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัดกระดุมนี้ นั่นก็คือ Gianni Agnelli สไตล์ไอคอนชาวอิตาเลียน ผู้ที่ทำให้การแต่งกายคลาสสิกผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติถูกนิยามว่า “Sprezzatura” และกลายเป็นคำศัพท์อมตะที่ยังคงถูกพูดถึงจนทุกวันนี้ครับ
THE MODERNITY OF BUTTON-DOWN
ความโมเดิร์นทันสมัยของโลกแฟชั่นเติบโตมาโดยมี Button-Down Shirt เป็นหนึ่งในนั้น สุภาพสตรีทั่วโลกต่างหยิบจับเสื้อเชิ้ตมาใส่ และเสื้อเชิ้ตประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากความลื่นไหลในการสร้างสรรค์ลุค ความท้าทายในการปะทะกันระหว่างความแมสคิวลีนและเฟมินีน จนบางครั้งเสื้อเชิ้ตกลายเป็นเครื่องแบบสำหรับสวมใส่ทำงานของสุภาพสตรีไปเลยด้วยซ้ำครับ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเสื้อเชิ้ตประเภทนี้ก็ไม่เคยเสื่อมความนิยมลงไปเท่าไหร่นัก กระแสตอบรับยังคงเป็นเชิงบวกชนิดล้นหลามทั้งในแง่ของ Menswear และ Womenswear
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าพูดถึงเลยคือเรื่องการกลัดกระดุมนั่นเองครับ เสื้อเชิ้ตประเภทนี้กลายเป็นไอเท็มแฟชั่นที่ไม่ได้ถูกจำกัดภายใต้กฎเกณฑ์หรือธรรมเนียมปฏิบัติอันเคร่งครัดของสุภาพบุรุษอนุรักษ์นิยม เสื้อเชิ้ตสไตล์นี้กลายเป็นไอเท็มที่เปิดโอกาสให้หลายคนได้ทดลองสไตลิ่งหรือจัดแต่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้เหมาะสมกับตัวเองและสถานการณ์ครับ ปัจจุบันฟังก์ชั่นการกลัดกระดุมเพื่อไม่ให้ปกเสื้อพัดปลิวไสวไปตามลมอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป เพราะผู้คนในสังคมไม่ได้สวมเสื้อเชิ้ตเล่นกีฬากันอีกแล้ว ดังนั้นกระดุมคู่นี้จึงเหมือนมรดกทางวัฒนธรรมที่หลงเหลือและสืบทอดมาเพื่อเอกลักษณ์ความสวยงามเท่านั้นครับ แต่อย่างที่กล่าวไปว่ากระดุมติดปกนี้ไม่ใช่แค่เน้นฟังก์ชั่น ทว่ามันยังทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนรูปทรงและสไตล์การสวมใส่ด้วย นี่คือเหตุผลที่ทำให้มันเป็นอมตะ อีกทั้งยังไม่ถูกลบเลือนไปตามยุคสมัยหากเทียบกับรายละเอียดที่ออกแบบตามฟังก์ชั่นการใช้งานในอดีต เช่นกระเป๋าสูทด้านในสำหรับ Pocket Watch หรือจะเป็นรูปปกเสื้อสำหรับ Collar Pin และอื่นๆ อีกมากมายครับ
หากใครสนใจเกี่ยวกับเสื้อเชิ้ต Button-Down หรือเสื้อเชิ้ตประเภทต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามกับเราได้ผ่านทุกช่องทางครับ อย่าลืมติดตามความรู้ที่น่าสนใจจากหัวใจเหล่าสุภาพบุรุษกับ The Decorum Tribune เพิ่มเติมได้ในตอนหน้า แล้วพบกันครับ