NOT ALL ABOUT LENGTH
เชื่อว่าสุภาพบุรุษหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีว่าเสื้อโค้ตจะต้องมีความมากกว่าเสื้อตัวนอกประเภทอื่นๆ เพราะส่วนใหญ่ติดภาพว่าเสื้อโค้ตมีลักษณะเป็นเสื้อที่ใช้วัสดุค่อนข้างหน้า ทำหน้าที่รักษาความอบอุ่นให้ร่างกาย นิยามของเสื้อโค้ตสำหรับคนทั้งโลกจึงหมายถึงเสื้อตัวยาวสำหรับกันหนาวในยามที่อุณหภูมิลดต่ำลงเรื่อยๆ มันผูกโยงกับรูปแบบการนำเสนอของแบรนด์แฟชั่นหรือห้องเสื้อด้วยที่เมื่อพูดถึงเสื้อโค้ตจะนำเสนอในรูปแบบของเสื้อผ้าฤดูหนาวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรื่องความยาวก็ไม่ใช่คำตอบดั้งเดิมเสียทีเดียว แม้ปัจจุบันจะสามารถใช้เป็นมาตรวัดการตัดสินสำหรับคนยุคใหม่ได้โดยสมบูรณ์แล้วก็ตามครับ
INDOOR VS. OUTDOOR?
ประเด็นนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะการสวมใส่ในชีวิตประจำวันนั้นอาจมีรูปแบบแตกต่างกันไปเล็กน้อย จึงมีบทวิเคราะห์ออกมาผ่านมุมมองของผู้หลงใหลด้านแฟชั่นคลาสสิกจำนวนหนึ่งว่านิยามของเสื้อโค้ตคือเสื้อที่ใส่ทำกิจกรรมภายนอกอาคารเพียงอย่างเดียว เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารจะถูกถอดออก ซึ่งสอดคล้องกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่โค้ตถูกมองว่าเป็นเสื้อสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง การกำเนิดขึ้นของ Sport Coat จึงถูกนิยามแบบนี้เช่นเดียวกัน เพราะมันถูกใช้เป็นเครื่องแต่งกายเพื่อขยับเขยื้อนยามทำกิจกรรม และอาจถูกถอดออกเมื่อเข้าสู่พื้นที่ตัวอาคารหรือพื้นที่ส่วนตัวอื่นๆ นั่นเองครับ ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงสมมติฐานที่น่าสนใจ ทว่ายังไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนครับ
GO THROUGH HISTORY
เรื่องสำคัญเกี่ยวกับการนิยามเสื้อผ้านั้นคงต้องย้อนไปสู่ยุคที่สุภาพบุรุษแต่งกายกันอย่างครบทุกองค์ประกอบ สมัยก่อนมีคำว่า “Overcoat” และ “Under-coat” ทุกคนคงเข้าใจความหมายของโอเวอร์โค้ตหรือเสื้อโค้ตตัวนอกกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ แต่อันเดอร์โค้ตนั้นมีรูปแบบแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะอันเดอร์โค้ตหมายถึงเสื้อคลุมตัวในสวมเป็นเลเยอร์รองจากเสื้อโค้ตตัวนอกอีกทีหนึ่ง อีกทั้งสุภาพบุรุษสมัยก่อนยังสวมเสื้อตัวยาวไว้ภายในจึงถูกระบุว่าเป็นโค้ตอย่างไม่ต้องสงสัย (ตัวอย่างเช่น Tailcoat และ Morning Coat) ต่อมามีการปรับรูปแบบของอันเดอร์โค้ตให้สั้นลงตามรูปแบบแจ็กเก็ตหรือเสื้อสูทในปัจจุบัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านสไตล์แต่ยังคงคำว่าโค้ตไว้เช่นเดิม แรกเริ่มเสื้อดังกล่าวถูกเรียกตามคำศัพท์ว่า “Lounge-coat” นั่นเองครับ
คำว่าแจ็กเก็ตเกิดจากคำศัพท์นิยามใหม่ที่หมายถึงเสื้อเหล่านี้ที่มีลักษณะสั้นกว่าแบบดั้งเดิม ดังนั้นเท่ากับว่าการนิยามชื่อเรียกของแจ็กเก็ตเกิดใหม่กว่าและเป็นเหมือนองค์ประกอบในเครือของเสื้อโค้ตมากกว่า หรือเรียกง่ายๆ ว่าคนสมัยก่อนคุ้นชินและอาจเรียกมันว่าโค้ตตัวสั้นโดยทั่วไปครับ ซึ่งต้นกำเนิดของเสื้อผ้าสูทยุคใหม่นั้นก็มีรากฐานจากการที่ช่างเสื้อโค้ต (Coat maker) หันมาผลิตแจ็กเก็ต นั่นทำให้ “Lounge-coat” ดั้งเดิมหลายประเภทยังคงผูกติดกับคำว่าโค้ตอยู่ด้วยนั่นเอง แม้ปัจจุบันอาจไม่เหลือนิยามเหล่านี้ให้เห็นกันมากนักแล้วก็ตามครับ
MODERN DAY CONFUSION
ความสับสนระหว่างโค้ตกับแจ็กเก็ตยังสืบเนื่องต่อมาจนถึงโลกยุคโมเดิร์นในปัจจุบันครับ คำนิยามด้านความยาวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เริ่มแยก 2 สิ่งจากกันอย่างชัดเจนและไม่ได้ยึดตามแบบแผนเดิมนัก แต่อีกสิ่งคือบางครั้งเสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อโค้ตกลายเป็นความมึนงงเช่นกันครับ เช่นพัฟเฟอร์โค้ตอาจหมายถึงแจ็กเก็ตสำหรับเล่นสกี ไม่ใช่เสื้อโค้ตตามชื่อแต่อย่างใด หรือจะเป็นนิยามคำศัพท์เกี่ยวกับอันเดอร์โค้ตที่แทบจะหายสาบสูญจะไปจากสารบบแฟชั่นยุคใหม่ เหลือเพียงคำว่าแจ็กเก็ตหรือสูทเข้ามาแทนที่ครับ ปัจจุบันเมื่อพูดถึงโค้ตเชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงโอเวอร์โค้ตกันเป็นหลัก และนั่นทำให้เกิดความสับสนเมื่อย้อนอดีตศึกษาถึงเรื่องอันเดอร์โค้ตและสปอร์ตโค้ต มากไปกว่านั้นรากฐานความนิยมจากฝั่งอเมริกันทรงอิทธิพลและพวกเขาก็สลับใช้ 2 คำนี้เพื่อนิยามเสื้อผ้าของสุภาพบุรุษจนเกิดความสับสนได้ในหลายกรณี ตอนนี้เราคงต้องใช้คำศัพท์ให้ทันตามยุคสมัย มันเป็นเรื่องของการสื่อสารมากกว่า เพราะนิยามที่มีจุดทับซ้อนกันเกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์และรู้ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการย้อนศึกษาเพียงเท่านั้น ตราบใดที่สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังพูดถึงได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเรียกสปอร์ตแจ็กเก็ตหรือสปอร์ตโค้ต จะเรียกแจ็กเก็ต เบลเซอร์ เลาจน์โค้ต เสื้อสูท หรือแม้กระทั่งอันเดอร์โค้ต ถ้าสื่อสารกันปราศจากอุปสรรค เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา คงนี่จะเป็นเพียงหมุดทางประวัติศาสตร์ที่ปักไว้ให้เราย้อนนึกถึงการหวนคืนสู่อดีตและรากฐานที่มาของมัน หรือเรียกง่ายๆ ว่ารู้ว่าประดับองค์ความรู้นั่นเองครับ
หากใครสนใจเกี่ยวกับแฟชั่นของสุภาพบุรุษฉบับคลาสสิกแบบนี้ สามารถติดต่อสอบถามกับเราได้ผ่านทุกช่องทางครับ อย่าลืมติดตามความรู้ที่น่าสนใจจากหัวใจเหล่าสุภาพบุรุษกับ The Decorum Tribune เพิ่มเติมได้ในตอนหน้า แล้วพบกันครับ