“ลินิน” หรือ “Linen” นั้นสุภาพบุรุษรวมถึงสุภาพสตรีทุกคนต้องรู้จักเนื้อผ้านี้กันไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน เนื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะดูเบาสบายแต่ก็ขึ้นทรงเสื้อผ้าได้อย่างสวยงาม เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยสัมผัสผ้าลินินในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ต ชุดเดรส กางเกง กระโปรง แจ๊กเก็ต หรือแม้กระทั่งชุดสูท แต่มีลินินจากประเทศหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดผ้าลินินของโลก หากใครจะหาลินินคุณภาพสูงก็ต้องที่นี่เท่านั้น ราคาที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับชื่อเสียงของมันการันตีได้ว่า “Irish Linen” หรือผ้าลินินจากประเทศไอร์แลนด์คือที่สุดของสายการผลิตนี้ครับ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับผ้าลินินคร่าวๆก่อนครับผ้าลินินนั้นคาดว่ามีต้นกำเนิดเก่าแก่มากกว่า 30,000 ปี โดยการทำผ้าลินินนั้นใช้เส้นใยจากต้น Flax เส้นใยของต้นนี้เวลานำมาถักทอเป็นเนื้อผ้าแล้วจะให้ความโปร่งเบาแต่ยังคงความเหนียวแน่นขึ้นทรงได้เป็นพิเศษ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดเด่นของผ้าลินินที่คนนิยมนำมาใช้ทำทั้งเสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน (บริเวณโต๊ะอาหาร) รวมไปถึงอุปกรณ์เล็กๆ น้อยอย่าง Handkerchief ด้วย การใช้งานได้หลากหลายทำให้ผ้าลินินกลายเป็นที่นิยมมาตลอดหลายยุคหลายสมัยและความมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ยากจะสังเคราะห์เส้นใยเทียมนั้นก็ทำให้มันเป็นอมตะเหนือกาลเวลาเลยก็ว่าได้ครับ
HOW IRISH LINEN START ?
คำถามที่ใครหลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าชาวไอริชตั้งตนเป็นใหญ่ในเรื่องการผลิตผ้าลินินด้วยตัวเองหรือไม่ คำตอบอาจจะฟันธงได้ไม่ชัดเจนนักในช่วงแรกแต่หลายแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ระบุว่าชาวไอริชมีการเก็บเกี่ยวต้น Flax มาทำงานหัตถกรรมตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 และต่อมาก็มีหลักฐานเรื่องความโดดเด่นเรื่องการผลิตเส้นใยของชาวไอริชเสมอมา ในยุคหนึ่งไอร์แลนด์กับอังกฤษถือเป็นคู่แข่งในการผลิตเส้นใยผ้ากันเลยทีเดียวครับ และแน่นอนว่าเมื่อมีการแข่งขันย่อมมีการพัฒนา ความเป็นคู่แข่งย่อมผลักดันให้ชาวไอริชเร่งพัฒนาในการทำผ้าคุณภาพสูงเพื่อตอบโจทย์ด้านการแข่งขันในสมัยก่อนครับ
ไอริชลินินมีการแข่งขันสู้กับการทำผ้าคอตตอนหรือผ้าฝ้ายของอังกฤษเรื่อยมา จนกระทั่งมีการพัฒนาเทคนิครวมถึงพัฒนาเมล็ดพันธุ์ Flax เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการทำเส้นใยผ้า การพัฒนาใช้ไม้แข็งถึงขนาดผู้ผลิตใดไม่ทำตามข้อตกลงในการพัฒนาอาจถูกปรับหรือจำคุกเลยทีเดียวครับ ถึงแม้จะมีกระแสต้านอย่างหนักแต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ในการผลิตผ้าลินินในดินแดนไอร์แลนด์ หลังจากนั้น Louis Crommelin ช่างทอผ้าลินินชาวฝรั่งเศสก็ถูกเชิญมาในเมืองลิสเบิร์นและได้รับการต้อนรับอย่างจากกลุ่มถักทอ Ulster ซึ่งเขาก็ค่อยๆ พัฒนาเทคนิค สร้างระบบการผลิตอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและมีมาตรฐาน จนภายหลังมีการสรรเสริญว่าเขาคือ “บิดาแห่งไอริชลินิน” และมาตรฐานที่เขาสร้างไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ยังคงเป็นแกนหลักสำคัญทำให้ไอริชลินินคือสุดยอดผ้าลินินชั้นสูงสุดของโลก
MAINTAINING “THE BEST LINEN” STATUS
ช่วงเวลาที่ยากกว่าการสร้างคือการรักษา…ผ้าลินินของไอริชไม่เคยมาตรฐานตกแม้ในช่วงหลังการปลูก Flax ในไอร์แลนด์เป็นที่นิยมน้อยลงเพราะมีการผลิตเส้นใยทดแทนอื่นๆ มากมาย ประกอบกับค่าแรงในการทำอาชีพอื่นนั้นมากกว่า แม้ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมเมืองเบลฟาสต์จะเคยได้รับฉายาว่า “Linenopolis” อุตสาหกรรมผลิตผ้าลินินจึงต้องใช้เส้นใย Flax จากประเทศอื่นๆ แทน (ปัจจุบันใช้ Flax จากประเทศยุโรปตอนเหนือ) จุดนี้ทำให้ประเทศไอร์แลนด์สั่นคลอนเรื่องการผลิตผ้าลินินพอสมควรและโดนตั้งคำถามว่า “ไอริชลินินยังดีที่สุดจริงหรือ” การตอบคำถามดังกล่าวไม่ใช่สามารถยืนยันจากคำกล่าวอ้างได้ Irish Linen Guild จึงเกิดขึ้นในปี 1928
Irish Linen Guild มีหน้าที่ในการพัฒนาและรักษาชื่อเสียงของไอริชลินิน และที่สำคัญคือช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิตดั้งเดิมให้ยังคงมาตรฐานการทำผ้าลินินไว้เหมือนหลายร้อยปีก่อน แม้เส้นใย Flax ยุคหลังจะไม่ได้เกิดจากฟาร์มในประเทศเหมือนยุคก่อนแต่ทางสมาคมก็มีกฎเกณฑ์ชัดเจนว่างานฝีมือทั้งหมดต้องเกิดขึ้นโดยคนไอริชและในประเทศไอร์แลนด์เท่านั้น เพราะฉะนั้นไอริชลินินยุคนี้จึงไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นกระบวนการปลูกในประเทศ แต่ทักษะการถักทอ งานฝีมือ และเทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ต้องเกิดขึ้นโดยคนท้องถิ่นจริงๆ เท่านั้นถึงจะเรียกว่าไอริชลินินได้ ความเป็นเอกเทศและรักษาความดั้งเดิม มากไปกว่านั้นยังหมายถึงมาตรฐานการผลิตระดับสูงทำให้ไอริชลินินยังถือเป็นผ้าระดับสูงที่ถูกใช้ในการผลิตเสื้อผ้าและสินค้าระดับ Luxury มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันเลยล่ะครับ
FROM FIBRES TO FABRICS TO PRODUCTS
ถ้าหากจะถามว่าในปัจจุบันผ้าลินินนิยมนำมาทำอะไรมากที่สุด คำตอบแรกๆ คงต้องพูดถึงเสื้อเชิ้ตและกางเกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอริชลินินที่มีคุณภาพสูงทำให้เสื้อเชิ้ตและกางเกงมีการทิ้งตัวของผ้าเป็นเอกลักษณ์ มุมหนึ่งให้ความเบาสบายเหมาะสำหรับหน้าร้อน ในอีกมุมหนึ่งก็ยังดูเนี้ยบกริบไม่แพ้ผ้าประเภทอื่นๆ เลยครับ นอกจากของท่านสุภาพบุรุษแล้วสำหรับสุภาพสตรีเสื้อหรือกระโปรงลินินก็กลายเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ และถ้าจะให้สวยเนี้ยบทุกรายละเอียดแน่นอนว่าไอริชลินินยังคงเป็นคำตอบสุดท้ายของผ้าลินินจากทั้งโลกแน่นอนครับ
จากเส้นใยสู่เล่มผ้าของแบรนด์ระดับสูง…แบรนด์อย่าง Harrison มีผ้าเล่มหนึ่งชื่อ W.Bill ผ้าเล่มนี้ประกอบด้วยไอริชลินินหลากหลายสีให้สุภาพบุรุษทุกท่านได้เลือกสรรในการตัดเสื้อแจ๊กเก็ตหรือแม้กระทั่งตัดสูททั้งตัว เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อนำไอริชลินินคุณภาพสูงแบบนี้มาตัดสูทหรือแจ๊กเก็ตจะได้ลุคที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ความละเอียดของการถักทอเส้นใยระดับสูงทำให้สูทดูเนี้ยบกริบ ยับยาก แม้จะมีรอยยับบ้างตามปกติของผ้าลินินแต่ถ้าตัดสูทกับช่างฝีมือดีรับรองว่าสูทของทุกท่านจะออกมาสมบูรณ์เพอร์เฟกต์อย่างแน่นอน
อีกหนึ่งแบรนด์ที่เลือกไอริชลินินมาสร้างสรรค์เสื้อแจ๊กเก็ตคือ Ascot Chang ที่นำเอาไอริชลินินคุณภาพสูงมากทำแจ๊กเก็ตซาฟารีได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีเบจ สีกรมท่า หรือสีน้ำตาล เนื้อผ้าก็สะท้อนความโดดเด่นในเรื่องมาตรฐานการผลิตได้เป็นอย่างดี ประกอบกับซิลูเอตและลักษณะเฉพาะของแจ๊กเก็ตซาฟารีซึ่งออกแบบเหมาะกับสภาพอากาศร้อนนั้นยิ่งทำให้จุดเด่นของไอริชลินินโดดเด่นขึ้นอีกระดับ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าแบรนด์ชั้นนำในเรื่องการตัดสูทและเสื้อผ้าบุรุษ(รวมถึงสตรีในหลายๆ แบรนด์) มักเลือกใช้ผ้าลินินจากประเทศไอร์แลนด์ที่ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานมาใช้ต่อยอดในการทำเสื้อผ้านั่นเองครับ
สุดท้ายไอริชลินินนั้นไม่ใช่แค่ผ้ามาตรฐานสูงธรรมดา แต่มันเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ส่งผลต่อถึงการรักษาความดั้งเดิมและความเป็นสุดยอดเอาไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ การรวมตัวเกิดเป็นกลุ่มทอผ้า เกิดสมาคมอย่างเป็นทางการยิ่งสามารถพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมถักทอในประเทศไอร์แลนด์ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นไม่น่าแปลกใจหากทั่วโลกจะยอมรับเสมอมาว่าผ้าลินินจากดินแดนทางตะวันตกของสหราชอาณาจักรคือที่สุดแห่งผ้าลินิน มั่นใจได้เลยว่าถ้ามีโอกาสได้สัมผัสเสื้อผ้าไอริชลินินสักตัวทุกท่านจะต้องหลงใหลจนอยากจะหาไอเท็มชิ้นใหม่เพิ่มเติมเข้าตู้อยู่เรื่อยๆ อย่างแน่นอนครับ
คอยติดตามความรู้ที่น่าสนใจจากหัวใจเหล่าสุภาพบุรุษ กับ The Decorum Tribune ได้ในตอนหน้า หากท่านใดสนใจตัดสูทผ้าลินิน W.Bill จากแบรนด์ Harrison หรือเสื้อแจ๊กเก็ตซาฟารีจาก Ascot Chang สามารถเข้ามาเลือกชมและปรึกษาข้อมูลได้ที่ร้าน The Decorum หรือช่องทางออนไลน์ทุกช่องทางครับ