จุดกำเนิดของรองเท้า Crockett & Jones
บ้านเกิดของ “Crockett & Jones” อยู่ที่เมืองนอร์ธแฮมป์ตัน (Northampton) ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเมืองแห่งโรงงานรองเท้าที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ก่อตั้งโดย James Crockett และ Charles Jones
สองสุภาพบุรุษที่มีบรรพบุรุษเป็นช่างทำรองเท้าเก่าแก่ของอังกฤษ James และ Charles เปิดโรงงานเล็ก ๆ โดยเริ่มแรกมีคนงานเพียง 20 คน จึงทำให้การผลิตโดยมากต้องทำการตัดหนังที่โรงงานและส่งให้คนงานนอกโรงงานทำการตัดเย็บ เพราะรองเท้าแต่ละคู่ใช้เวลาในการผลิตค่อนข้างสูง เนื่องจากมีกระบวนการผลิต และเทคนิคที่ค่อนข้างซับซ้อน รวมไปถึงมีความทนทานต่อการใช้งาน ต่อมาโรงงานได้ติดตั้งเทคโนโลยีเครื่องเย็บรองเท้าแบบใหม่จากอเมริกา ที่มีชื่อว่า Goodyear Welted เข้ามา ทำให้โรงงานสามารถลดระยะเวลา และกระบวนการในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถรักษาคุณภาพ ความทนทาน และยืดอายุการใช้งานของรองเท้าแต่ละคู่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รองเท้าของ Crockett & Jones เริ่มมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ทายาทรุ่นที่ 2 เริ่มเข้ามาช่วยกิจการทั้ง James Crockett และ Charles Jones จึงตัดสินใจขยายโรงงานเพื่อขนาดธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องแต่ก็ยังอยู่แค่ในอังกฤษจึงต้องคิดค้นหาวิธีเพื่อกระจายรองเท้าคุณภาพเยี่ยมสู่หลายประเทศ จนกระทั่งปี 1911 รองเท้า Crockett & Jones คว้ารางวัลการออกแบบรองเท้ามาจากเมืองตูริน ประเทศอิตาลี หลังจากนั้นทายาทรุ่นที่ 2 ก็เข้ามาร่วมดูแลกิจการกันครบทั้งรุ่น และเชื่อไหมครับว่า ปี 1914 สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นโรงงานแห่งนี้กลายเป็นโรงงานสำหรับผลิตรองเท้าทหาร พวกเขาผลิตรองเท้าไปกว่า 600,000 คู่ต่อปีเลยทีเดียว ถึงแม้จะมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น Clifden ลูกชายคนเล็กของ Charles Jones เสียชีวิตจากสงคราม…แต่กิจการต้องเดินหน้าต่อ และข่าวดีหลังข่าวร้ายของพวกเขาคือ King George VI ได้ให้เกียรติเสด็จเยือนโรงงานทำรองเท้าของพวกเขา ท่านทรงสนพระทัยกระบวนการผลิต และการตัดเย็บรองเท้าของ Crocket & Jones เป็นอย่างมาก โดย “Sir James Crockett” เป็นผู้นำชมโรงงานด้วยตัวเอง
การเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ คือกุญแจสำคัญของ Crockett & Jones เพราะที่นี่ทันและนำกระแสโลกอยู่เสมอเลยก็ว่าได้ครับ หลังจบสงคราม เทรนด์แฟชันเปลี่ยนไป แต่พวกเขาก็ไม่เคยหยุดนิ่ง ทายาทรุ่นที่ 3 เข้ามาสานต่อกิจการพร้อมปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับตลาดรองเท้าซึ่งผู้หญิงกลายเป็นผู้บริโภคหลัก มีการปรับภาพลักษณ์ รู้จักแสดงสินค้าเพื่อโปรโมตความสวยงาม แต่แล้วพวกเขาต้องเจอกับพิษสงครามอีกครั้งแต่นั่นก็ไม่เป็นผลให้แบรนด์ล้มลงได้ เพียงแต่ว่า ใน ปี 1952 Clifton หลานชายของ James Crockett ได้ออกจากกิจการไป หลังจากเข้ามาร่วมได้ 6 ปี ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกครอบครัว Crockett คนสุดท้ายในแบรนด์รองเท้าอมตะนี้ อย่างไรก็ดี ในสภาวะที่ธุรกิจนำเข้ารองเท้าราคาถูกกำลังเติบโต ทำให้แบรนด์เก่าแก่หลายแบรนด์ต้องปิดตำนานลง ตระกูลทำรองเท้าเหลืออยู่ไม่ถึง 100 ครอบครัว และแน่นอนว่าชื่อของ C&J เป็นหนึ่งในนั้นที่ยังคงอยู่ จะเห็นได้ว่า การปรับตัวนั่นเอง ที่ทำให้รองเท้าแบรนด์นี้รอดมาได้อยู่เสมอ
จากธุรกิจครอบครัวสู่ตลาดโลก
มีไม่มากนักที่ธุรกิจของตระกูลจะต่อยอดจนมาถึงลูกหลานรุ่นที่ 5 ช่วงยุค ‘70s Crockett & Jones ส่งรองเท้าสู่ตลาดต่างประเทศ และหวนกลับมาผลิตรองเท้าบุรุษเกือบเต็มตัว รวมถึงมุ่งเน้นการผลิตรองเท้าหนังคุณภาพสูงตัดเย็บแบบ Goodyear Welted เท่านั้น ด้วยคุณภาพระดับสูงทำให้สามารถบุกเจาะตลาดยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่นได้อย่างมั่นคง ต่อมา แบรนด์ได้เปิดร้านแบบ Standalone และเข้าสู่ตลาด Retail เป็นครั้งแรก
ณ Jermyn Street กรุงลอนดอน และขยายสาขาต่อทั้งในลอนดอน ปารีส นิวยอร์ก บรัสเซลส์ และเบอร์มิงแฮม ความเก่าแก่และยิ่งใหญ่นี้ทำให้ทางการอังกฤษถึงขั้นต้องจดทะเบียนโรงงานของแบรนด์ไว้เป็นอาคารภายใต้การอนุรักษ์เลยทีเดียวล่ะครับ ผลงานของทายาทรุ่นที่ 4 เปิดตลาดวงกว้างอย่างจริงจัง ทายาทรุ่นที่ 5 ก็มารับไม้ต่อแบบไม่ทิ้งช่วง แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องยอดขายอย่างเดียวเท่านั้นที่เติบโตขึ้น ความสวยของรองเท้า Crockett & Jones ก็เป็นที่สนใจของทีมงานภาพยนตร์ James Bond เข้าอย่างจัง ถ้าใครลองสังเกตจะเห็นว่า รองเท้าในภาพยนตร์ชื่อดังทั้งในภาค Skyfall และ Spectre ก็เลือกใช้รองเท้าหลากหลายรุ่น ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์เติบโตขึ้นรวมถึงส่งเสริมยอดขายไปอีกทาง ยิ่งปี 2013 ทายาทรุ่นที่ 5 เองมีโอกาสรับเสด็จ Prince Charles เพื่อทัวร์โรงงานอีกครั้ง ตอนนี้ชื่อเสียงและมนต์ขลังของแกบรนด์กระจายออกไปมากกว่า 30 สาขาทั่วโลก และตลอดระยะเวลากว่า 140 ปีที่ผ่านก็ต้องบอกว่า พวกเขาไม่เคยทิ้งมาตรฐานและชื่อ Crockett & Jones ให้แผ่วเบาลงแม้แต่นิดเดียวจริงๆ สุภาพบุรุษทุกคนอาจจะได้อ่านเรื่องราวความสุดยอดจากประวัติศาสตร์แบรนด์กันแล้ว เรามาทำความรู้จักกับแบรนด์กันต่อดีกว่าครับว่า 140 ปีทีผ่านมาอะไรทำพวกเขาไม่จางหายไปจากลิสต์แบรนด์รองเท้าชั้นนำของโลกแม้แต่ช่วงเดียว
ถ้าอ่านช่วงต้นจะเห็นว่า มีการนำเครื่องเย็บแบบ Goodyear Welted เข้ามาและผลักดันจนเป็นเอกลักษณ์นับแต่นั้นมาใช่ไหมครับ รวมถึงการควบคุมคุณภาพโดยเหล่าสมาชิกในครอบครัว แต่อีกปัจจัยที่ทำให้แบรนด์นี้คงมาตรฐานเอาไว้ได้คือทักษะฝีมือของเหล่าช่างเย็บนั่นเอง ช่างผู้ที่รู้จักคาแรกเตอร์และมาตรฐานของแบรนด์เป็นอย่างดี ทำให้รองเท้าคุณภาพระดับท็อปเมื่อศตวรรษก่อนเป็นอย่างไร สมัยนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ หรือเรียกว่า “ความเก่าแต่เก๋า” ก็ได้ครับ
ลงรายละเอียดกันอีกสักนิด จะเห็นได้ว่ารองเท้าของ Crockett & Jones ที่มีความประณีตทุกคู่นั้นไม่ใช่เพราะตัวบุคลากรอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ ลองสังเกตดูว่าหนังที่แบรนด์เลือกใช้จะเป็นหนังคุณภาพสูงเกรดพรีเมียมเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหนัง Calf, Grain หรือ Suede จุดนี้ทำให้หนังส่วนตัวรองเท้า (Upper) แสดงถึงคุณภาพที่ดีได้ทันที และยิ่งหนังคุณภาพเยี่ยมมาเจอกับช่างฝีมือของแบรนด์ก็ยิ่งทำให้ความเรียบเนียนของผลงานพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ใครเคยเห็นภาพถ่ายหรือยิ่งเห็นรองเท้าของจริงจะเห็นถึงความแตกต่างจากรองเท้าหนังทั่วไปได้ทันที แม้จะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องรองเท้าเลยก็ตาม เหมือนกับว่ารองเท้าคุณภาพสูงให้เห็นประจักษ์โดยไม่ต้องอธิบายสรรพคุณเพิ่มเติมเลยล่ะครับ
Crockett & Jones คัดสรรเฉพาะหนังที่มีคุณภาพสูงมาตัดเย็บโดยช่างที่มีประสบการณ์ และทักษะในการตัดเย็บที่ผ่านมาตรฐานการตัดเย็บรองเท้าโดยเฉพาะของแบรนด์ รวมไปถึงกรรมวิธีการตัดเย็บแบบ Goodyear Welted ที่มีวิธีตัดเย็บได้อย่างปราณีต และไม่ดูใหญ่เทอะทะจนเกินไป ทำให้รองเท้ามีความทนทาน และใช้งานได้นาน รวมไปถึงรูปทรงที่คงอยู่กับกาลเวลา จนถือเป็นการผสมผสานระหว่างความสวยงาม และคงทนไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องเปลี่ยนรองเท้า และสามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ในหลาย ๆ โอกาส
นอกจากนั้น Crockett & Jones ยังมีไลน์การผลิตแบบพิเศษที่เรียกว่า Hand Grade ซึ่งเป็นการตัดเย็บด้วยมือตลอดกระบวนการผลิต ใช้ความประณีต และใส่ใจในรายละเอียดเป็นพิเศษ ทำให้รองเท้าคอดเรียวไปตามสรีระของเท้าได้อย่างมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องจักรไม่สามารถทำได้
การที่ Crockett & Jones ขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรองเท้าชั้นนำระดับโลกได้นั้น อีกประการหนึ่งคือคุณภาพที่คุ้มค่ากับราคา ผู้บริโภคที่ได้ลองใส่จะเห็นความแตกต่างกับรองเท้าหนังทั่วไปในตลาดรองเท้าที่มีอยู่หลากหลายยี่ห้ออย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสบายในการสวมใส่ คุณภาพของหนัง รูปทรงของรองเท้า ความคุ้มค่า คงทนในการใช้งาน รวมไปถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น กล่องรองเท้า เป็นต้น และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับรองเท้าหนังทั่วไปแล้วแน่นอนว่าระยะเวลาในการสวมใส่ รวมไปถึงความคุ้มค่าในหลาย ๆ แง่ของรองเท้าหนัง ถือว่าเป็นรองเท้าหนังที่คุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน
เลือกรองเท้า Crockett & Jones ที่เหมาะกับคุณ
Hallam – Audley
เรามีทรงรองเท้าให้สุภาพบุรุษทุกท่านเลือกใช้ในหลากหลายโอกาส สำหรับโอกาสที่ต้องการความเป็นทางการมาก คนส่วนมากมักจะมองหารองเท้าทรง Oxford Cap-Toe ซึ่งรุ่นที่ The Decorum Tribune ชอบ ได้แก่ รุ่น Hallam ซึ่งเป็นซีรีส์ Bench Grade และมีทรงเป็นแบบ Soft Chisel Toe ที่จะมีความเป็น Contemporary นอกจากนั้นแล้ว อีกรุ่นที่พวกเราชอบ คือ รุ่น Audley ซึ่งเป็นซีรีส์ Hand Grade และมีทรงเป็นแบบ Round-Almond Toe ที่จะมีความคลาสสิค รวมถึงคุณภาพหนังที่ใช้และการตัดเย็บช่วงพื้นรองเท้าแบบ Closed Channel ทำให้ไม่เห็นตะเข็บ ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมา รองเท้าทรง Oxford ถือว่าเป็นหนึ่งในรองเท้าที่ควรมีติดไว้สักคู่ในตู้รองเท้าของคุณ เพราะสามารถใส่ได้ในทุกโอกาส
Harvard – Cavendish
สำหรับท่านที่อยากลดระดับความเป็นทางการลงมา ทางเราก็ขอเสนอเป็นรองเท้าทรง Loafers ไม่ว่าจะเป็น Penny หรือ Tassel ทั้ง รุ่น Harvard และรุ่น Tassel Cavendish ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในรองเท้า Loafers ที่เป็นตำนานหรือมีความ Iconic มากครับ
ถึงแม้รองเท้า Crockett & Jones จะมีราคาอยู่ในระดับค่อนข้างสูงแต่เมื่อมองถึงรากฐานของแบรนด์เรื่อยมาจนถึงเรื่องคุณภาพ แบรนด์ดังระดับโลกจากนอร์ธแฮมป์ตันตอบเราแล้วว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ทุกคนทั่วโลกจ่ายไปเขาให้อะไรกลับมา มาตรฐานการผลิตที่สูงซึ่งไม่เคยเปลี่ยน แบรนด์ยังคงความคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้เสมอจวบจนถึงปัจจุบันนี้ และนับวันยิ่งจะมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น หากกำลังพิจารณาที่จะลงทุนกับรองเท้าหนังสักคู่ รองเท้าแบรนด์นี้น่าเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ที่เราแนะนำให้พิจารณาดูครับ
คอยติดตามความรู้ที่น่าสนใจจากหัวใจเหล่าสุภาพบุรุษ กับ The Decorum Tribune ได้ในตอนหน้า และหากท่านใดสนใจรองเท้า Crockett & Jones สามารถเข้ามาลองที่ร้าน The Decorum หรือสั่งซื้อออนไลน์
